
ธนาคารกลางยุโรป ลดดอกเบี้ย เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจยูโรโซน
เมื่อวันที่ 6 มีนาคม 2568 เวลา 09:00 น. ตามเวลา PST ธนาคารกลางยุโรป ลดดอกเบี้ยครั้งที่ 6 ในรอบ 9 เดือน โดยปรับอัตราดอกเบี้ยนโยบายหลักจาก 2.75% เหลือ 2.5% เพื่อหนุนการเติบโตทางเศรษฐกิจของยูโรโซน ซึ่งเผชิญความท้าทายจากนโยบายภาษีสหรัฐและการเพิ่มงบประมาณทหารในยุโรป ตามรายงานของ BBC การตัดสินใจนี้เกิดขึ้นท่ามกลางการปรับลดคาดการณ์การเติบโต โดย ECB คาดว่า GDP ปี 2025 จะขยายตัวเพียง 0.9% เพิ่มจาก 0.7% ในปีที่ผ่านมา การลดอัตราดอกเบี้ยครั้งนี้มีเป้าหมายเพื่อลดต้นทุนการกู้ยืมสำหรับครัวเรือนและธุรกิจในยูโรโซน
การตัดสินใจของ ECB สอดคล้องกับสถานการณ์ที่ตลาดพันธบัตรรัฐบาลเยอรมนีเผชิญการเทขายครั้งใหญ่ในวันพุธ หลังเยอรมนีประกาศเพิ่มงบประมาณด้านทหารและโครงสร้างพื้นฐาน พรรคการเมืองที่กำลังเจรจาจัดตั้งรัฐบาลใหม่มีแผนผ่อนคลายกฎการคลัง ซึ่งอาจเพิ่มหนี้สินมหาศาล ส่งผลให้ค่าเงินยูโรพุ่งสูงสุดในรอบ 4 เดือน และหุ้นฟื้นตัวในวันนั้น อย่างไรก็ตาม ในวันพฤหัสบดี ต้นทุนการกู้ยืมของเยอรมนี ซึ่งวัดจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตร ยังคงเพิ่มขึ้น และลุกลามไปยังสหราชอาณาจักร ซึ่งต้นทุนการกู้ยืมสูงขึ้นจากเงินเฟ้อที่ลดลงช้ากว่าคาด
ECB ระบุว่า อัตราเงินเฟ้อใกล้เป้าหมาย 2% และการลดดอกเบี้ยจะช่วยให้การกู้ยืมถูกลง แต่ความท้าทายยังรออยู่ข้างหน้า หากรัฐบาลสหรัฐภายใต้การนำของทรัมป์เดินหน้าเก็บ “ภาษีตอบโต้” จากทุกประเทศที่เก็บภาษีสินค้าสหรัฐ เศรษฐกิจยูโรโซนอาจชะลอตัวเพิ่มเติม นอกจากนี้ การเพิ่มงบประมาณทหารในยุโรปยังอาจกดดันงบประมาณในด้านอื่น ๆ ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจในระยะยาว
ความท้าทายของ ECB หลังการลดดอกเบี้ย
การลดอัตราดอกเบี้ยครั้งนี้สะท้อนความพยายามของ ECB ในการจัดการกับเงินเฟ้อและกระตุ้นเศรษฐกิจ แต่ด้วยคาดการณ์ GDP ที่ต่ำและความเสี่ยงจากนโยบายสหรัฐ เส้นทางข้างหน้ายังไม่แน่นอน อ่านเพิ่มเติมที่ BBC หรือ Kenkou Land
เนื้อหาหลัก: เส้นทางการฟื้นตัวที่เปราะบาง
วันนี้ 6 มีนาคม 2568 เวลา 09:00 น. ตามเวลา PST ธนาคารกลางยุโรป ลดดอกเบี้ย ลงเหลือ 2.5% เพื่อช่วยให้ครัวเรือนและบริษัทในยูโรโซนกู้ยืมเงินได้ในราคาที่ถูกลง ขณะที่อัตราเงินเฟ้อใกล้เป้า 2% แต่ ECB ก็ปรับลดคาดการณ์การเติบโตของยูโรโซนลง โดยคาดว่า GDP ปี 2025 จะขยายตัวเพียง 0.9% จาก 0.7% ในปีก่อน ตามรายงานของ BBC
ในสหราชอาณาจักร ต้นทุนการกู้ยืมสูงขึ้นจากเงินเฟ้อที่ลดช้ากว่าคาด ถึงกระนั้น ลินด์เซย์ เจมส์ จาก Quilters ระบุว่าตลาดยังคาดว่าแบงก์ออฟอิงแลนด์จะลดดอกเบี้ยอีก 2 ครั้งในปี 2025 ตามข้อมูลเงินเฟ้อล่าสุดที่ “น่าพอใจ” อย่างไรก็ตาม ความเสี่ยงจากนโยบายของทรัมป์ รวมถึงการเพิ่มงบประมาณทหารของเยอรมนี ทำให้ตลาดการเงินผันผวน ค่าเงินยูโรที่แข็งขึ้นอาจส่งผลต่อการส่งออกของยูโรโซน ซึ่งเป็นอีกหนึ่งความท้าทายที่ ECB ต้องเผชิญ
เวลา 09:00 น. PST การตัดสินใจของ ECB ในการลดดอกเบี้ยครั้งนี้เป็นก้าวที่สำคัญ แต่ด้วยความไม่แน่นอนในระดับโลกและปัจจัยภายใน เส้นทางการฟื้นตัวของยูโรโซนยังคงเปราะบาง ความเสี่ยงยังสูง ตามความเห็นทั่วไป